วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความเป็นมา-ขนมเค้ก&เบเกอรี่

เบเกอรี่ (Bakery) มีรากศัพท์มาจากคำว่า Bake ที่แปลว่า อบ จึงอาจกล่าวได้ว่า เบเกอรี่ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งสาลีเป็นหลัก และทำให้สุกโดยวิธีการอบ ตัวอย่างชนิดของเบเกอรี่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ
                        
 เค้ก (Cake)

       เค้ก (Cake) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักจะมีลักษณะหวานและผ่านกระบวนการอบ ซึ่งจะทำมาจากแป้ง, น้ำตาล และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไข่, แป้งเปียก, ผัก, ผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว เป็นต้น หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย, ชีส, ยีสต์, นม, เนยเทียม เป็นต้น และนิยมรับประทานเป็นของหวาน และฉลองในเทศกาลต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งในโลกมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กเป็นจำนวนล้านๆ สูตร อีกทั้งตำรับการทำเค้กบางแห่งก็มีการสืบทอดการทำและสูตรตำรับเป็นอายุมากมายหลายศตวรรษ

                                
 คุ้กกี้ (Cookie)

       คุกกี้ คือขนมอบชิ้นเล็ก ๆ รูปร่างแบน ซึ่งทำจากแป้งสาลี คำว่าคุกกี้มีที่มาจากคำในภาษาดัตช์ koekje ซึ่งหมายถึง เค้กชิ้นเล็ก ๆแรกเริ่มเดิมทีนั้น คุกกี้ทำโดยการแบ่งแป้งขนมเค้กที่ผสมแล้วออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นแบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำเข้าเตาอบ เพื่อทดสอบอุณหภูมิที่จะใช้อบขนมเค้ก คำว่า คุกกี้” (cookie) ใช้กันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่สหราชอาณาจักรจะเรียกขนมแบบเดียวกันนี้ว่า บิสกิต” (biscuit)

                    
 ขนมปัง (Bread)

       ขนมปัง (Bread) เป็นอาหารที่ทำจากแป้งสาลีที่ผสมกับน้ำและยีสต์ หรือ ผงฟู นอกจากนี้ยังมีการใช้ส่วนผสมอื่นๆเพื่อแต่งสี รสชาติและกลิ่น แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของขนมปัง และ แต่ละประเทศที่ทำ โดยนำส่วนผสมมาตีให้เข้ากันและนำไปอบ ขนมปังมีหลายประเภท เช่น ขนมปังฝรั่งเศส ขนมปังแซนด์วิช ขนมปังหวาน ขนมปังนั้นสามารถทานได้เลย แต่โดยปกติจะทานกับเนย เนยถั่ว แยม เยลลี่ แยมส้ม น้ำผึ้ง หรือทำเป็นแซนวิช ขนมปังนั้นสามารถนำไปอบหรือปิ้งได้ และจะเสิร์ฟร้อนหรือเย็นก็ได้ ขนมปังนั้นควรที่จะเก็บไว้ในกล่องเก็บขนมปังเพื่อรักษาความสดใหม่. จริง ๆ แล้ว ขนมปังนั้นสามารถขึ้นราได้ง่ายในอุณหภูมิเย็น 

พาย (Pie)

       พาย (Pie) คืออาหารชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการวิธีในการอบ โดยปกติพายจะบรรจุไส้ต่างๆ ไว้ด้านใน เช่น เนื้อ ปลา ผัก ผลไม้ ชีส ครีม ช็อกโกแลต คัสตาร์ด ถั่ว หรือของหวานอื่นๆ พายจะมี 2 ลักษณะคือ แบบที่มีแป้งประกบทั้งสองด้าน เช่น พายไก่ หรือ พายสับปะรด หรืออีกประเภทที่วางอยู่บนแป้งด้านหนึ่ง เช่นพายที่เป็นขนมหวาน โดยไส้ที่เป็นของหวานหรือผลไม้ จะวางบนแผ่นแป้งที่เรียกว่า ครัสต์ พายประเภทที่เป็นของหวานมักจะผ่านกระบวนการอบเฉพาะส่วนของแป้งเท่านั้น ส่วนไส้ในจะมาใส่ภายหลัง
เดนนิส/ครัวซอง (Danish / Croissant)
เป็นขนมอบที่นำเอาขนมปังกับพายชั้น มาประยุกต์เข้าด้วยกัน ดังนั้นลักษณะของขนมจะขึ้นด้วยยีสต์และชั้นของเนยที่อยู่ข้างในคล้ายๆ รังผึ้ง สามารถทำได้หลายรูปแบบ และไส้ต่างๆ กัน
ชอร์ตโดคุกกี้พายร่วน และทาร์ต (Short Dough, Cookies, Pies & Tarts)
เป็นกลุ่มขนมซึ่งมีลักษณะของแป้งคล้ายคลึงกัน คือจะร่วนกรอบ
ชอร์ตโด - ส่วนใหญ่จะใช้ประกอบกับขนมชนิดอื่นๆ เช่นรองชั้นล่างเค้ก
พายร่วน / ทาร์ต จะมีทั้งหน้าเปิดและหน้าปิด ปกติพายจะมีชิ้นใหญ่ ส่วนทาร์ต จะมีชิ้นเล็กและไส้หวาน
 ชูเพสต์ / เอแคร์ (Choux paste / ?clair) ขนมอบที่มีลักษณะเป็นโพรงภายใน เกิดจากการอบมีแรงดันไอน้ำ มีส่วนผสมของ แป้งไขมันน้ำไข่ ที่ทำให้แป้งสุกตัวก่อนอบ มีหลายรูปแบบ และไส้หลายๆ ชนิด
ครีมคัสตาด ไส้ขนมต่างๆ เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มสุดท้ายที่ไม่สามารถแยกอยู่ในกลุ่มใดๆ ได้ เช่น คาราเมลคัสตาดมูส เป็นต้น 

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ขอบคุณข้อมูลจาก -- https://sites.google.com/site/sureeratsrp/be-ke-xri-bakery

ประเภทขนมเค้กแสนอร่อย...^^

       ขนมเค้กนั้นจะแบ่งได้ 4 ประเภท
1. เค้กเนย (butter cake)
       
เป็นเค้กที่มีไขมันสูง การขึ้นฟูของเค้กประเภทนี้เกิดจากอากาศที่ได้จากการตีเนยกับน้ำตาล โดยไขมันจะเก็บอากาศไว้ ซึ่งจะขยายตัวในระหว่างการอบ เค้กประเภทนี้ได้แก่ ไวท์เค้ก ช็อกโกแลตเค้ก ฟรุ้ตเค้ก เค้กไข่ (unshortened cake หรือ Foam – type cake) เป็นเค้กที่ไม่มีไขมันในส่วนผสม เนื้อเค้กและปริมาตรของเค้กขึ้นอยู่กับการขยายตัวของไข่ขาวที่นำมาตีจนเป็น ฟองซึ่งจะเก็บอากาศเข้าไว้ในระหว่างการตีไข่ ทำให้เค้กขยายตัวหรือขึ้นฟูในระหว่างการอบ การทำเค้กประเภทนี้ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะฟองที่เกิดจากการตีไข่ขาวนั้นอ่อนตัว ไม่เหมือนเค้กเนย เค้กประเภทนี้แบ่งได้ 2 ประเภท
 
2. เค้กสปองจ์ (Sponge cake)
       เค้กชนิดนี้ขึ้นฟูด้วยไข่ คุณภาพของไข่จะมีผลต่อการทำสปันจ์เค้กมาก ไข่ที่สดและใหม่จะมีความคงตัวกว่า ไข่อุณหภูมิห้องจะตีได้ปริมาณที่มากกว่าไข่ที่เย็น เค้กนี้จะนำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเนยละลายตีรวมกันโดยเพิ่มสารเสริมคุณภาพ ตีจนส่วนผสมขึ้นฟูจึงใส่เนยละลาย
3. เมอแรงก์เค้ก (merinque cake) 
         เค้กกลุ่มนี้ใช้เฉพาะไข่ขาวเพียงอย่างเดียว เนื้อเค้กจะเบาๆ เช่น แองเจิลเค้ก
เค้ก ชิฟฟอน (Chiffon Cake หรือ Combination Type Cake) เค้กที่มีลักษณะผสมของเค้กเนยและเค้กไข่ คือ มีโครงสร้างที่ละเอียดของเค้กไข่ และมีเนื้อเค้กที่มันเงาของเค้กเนย ต่างจากเค้กเนยตรงชิฟฟอนเค้กใช้น้ำมันพืชแทนเนยหรือมาการีนในเค้กเนยและวิธี การทำผสมระหว่างเค้กเนยและเค้กไข่
 4. ชีสเค้ก (Cheesecake) 
       เป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักคือ ครีมขีส ไข่ น้ำตาล นม ผสมให้เข้กัน แล้วนำไปใส่ครัสต์ หรือจานขนมปังอบกรอบบด จริง ๆ แต่ที่ไม่เรียกว่าชีสพายเพราะไม่ต้องนำไปอบ

 

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ที่มาข้อมูล - http://thitapa13.exteen.com/20110221/entry-2

ขนมเค้กตามเทศกาล..^^

       ทุกคนจะรู้จักกันดีนะค่ะ สำหรับขนมเค้กในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งขนมเค้กนั้นจะขนมที่ทุกคนสามารถหาเลือกซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้คนที่คุณรักในทุก ๆ เทศกาล และจะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกหาซื้ออย่างมากมาย ในแต่ละเทศกาลก็จะมีความโดดเด่นที่ต่างกันอยู่ วันนี้จะมีรูปสำหรับขนมเค้กที่มีรูปแบบเป็นที่นิยมในเทศกาลต่าง ๆ มาให้ดูกันค่ะ................

1.  เทศกาลวาเลนไทน์

       ขนมเค้กถือเป็นของขวัญอีกชิ้นที่น่าเลือกซื้อให้คนรัก และยังมีลักษณะที่หลากหลายให้เลือกอีกด้วยค่ะ และมักจะทำให้มีรูปแบบที่ดูหวานเหมาะกับเทศกาลนี้จริง ๆ 

cake2.jpg   
cake10.jpg   cake7.jpg

cake6.jpg
ขอบคุณภาพจาก - http://webboard.zubzip.com/topic/45051

2. เทศกาลปีใหม่


       เป็นอีกเทศกาลที่มักจะหาเลือกซื้อของขวัญไปฝากคนรักหรือญาติผู้ใหญ่เค้กในเทศกาลนี้จะมีรุปแบบที่ดูเรียบง่ายและสวยงาม
เตรียมต้อนรับปี 2012 ด้วยเค้เค้กปีใหม่น่ากิน...สตอเบอรี่แสนหวาน
   
ขอบคุณภาพจาก - http://atcloud.com/stories/102465

3. เค้กวันเกิด


       วันเกิดคือวันพิเศษวันนึงที่จะต้องหาซื้อเค้กกันอย่างแน่นอน เค้กวันเกิดจะมีหลายรูปแบบหลายลักษณะให้เลือกซื้อ แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน หรือให้ใคร โดยดูตามวัยตามชอบค่ะ

เค้กวันเกิด   เค้กวันเกิด

เค้กวันเกิด   เค้กวันเกิด

เค้กวันเกิด

เค้กวันเกิด   เค้กวันเกิด

ขอบคุณภาพจาก - http://siamtradition.blogspot.com/2013/04/blog-post_3870.html

เทคนิคการทำขนมเค้กแสนหวาน..^^

เค้กมีหลายชนิดหลายรูปแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การทำเค้กแต่ละชนิดจะมีวิธีทำและส่วนผสมที่ต่างกัน บางชนิดก็มีวิธีการทำที่ซับซ้อน ซึ่งผู้ทำเค้กควรจะมีเทคนิคในการทำ คือ
1. ควร ร่อนแป้งทุกครั้งก่อนใช้ เพื่อให้อากาศแทรกเข้าไประหว่างเนื้อแป้ง ทำให้แป้งฟูเบา ช่วยให้แป้ง ที่จับเป็นก้อนเแยกตัวออก จะสังเกตุได้ว่าแป้งที่ร่อนแล้วกับแป้งที่ยังไม่ได้ร่อน แม้จะมีปริมาตรเท่ากันแต่จะหนัก ไม่เท่ากัน ดังนั้นในการทำเค้กในปัจจุบัน จะนิยมการชั่งมากกว่าการตวง ซึ่งทำให้ส่วนผสมแน่นอนกว่า แต่การ ชั่งก็ต้องร่อนแป้งทุกครั้งเช่นเดียวกัน
2. ไขมันในการทำเค้กใช้เนย หรือมาการีน ถ้าเป็นเนยสดก่อนใช้ควรนำออกจากตู้เย็นก่อนเพื่อจะตีได้ง่ายขึ้น ในการทำเค้กเพื่อให้มีลักษณะดีควรใช้เนยสดผสมมาการีนหรือเนยขาว จะทำให้เค้กเนื้อนุ่มมีลักษณะดี และมี ปริมาตรดีด้วย
3. ควรใช้น้ำตาล เม็ดละเอียดในการผสมเค้ก ถ้าใช้น้ำตาลเม็ดใหญ่อาจทำให้ละลายไม่หมด ทำให้เกิด ลักษณะเป็นจุด ๆ บนหน้าเค้ก ควรนำไปปั่นให้ละเอียดก่อนใช้
4. การ ตีส่วนผสม เค้กชนิดที่มีไขมันเป็นส่วนผสมหลัก ควรใช้พายยางปาดข้างอ่างผสมและที่ตีเสมอ ๆ เพื่อช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ง่ายขึ้น ควรหยุดเครื่องผสมทุกครั้งก่อนใช้พายปาด
5. ผงฟู ที่ใช้ในการทำเค้กควรใช้ผงฟูคุณภาพดี ถ้าผงฟูเก่าขนมเค้กจะมีขนาดและปริมาตรไม่เป็นไปตาม ที่ต้องการ
6. การ เติมไข่หรือส่วนผสมที่เป็นของเหลว ควรค่อย ๆ เติมลงไปทีละน้อย หรือแบ่งเติมทีละส่วน ไม่ควรใส่ หมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันแยกตัวออกจากส่วนผสม ทำให้เค้กที่ได้มีปริมาตรเล็ก และเนื้อ ขนมมีลักษณะไม่ดี
7. ในการผสม เค้กเนยในช่วงสุดท้าย มักเป็นการผสมนมหรือของเหลวอื่น ๆ ให้ใส่แป้งสลับกับนมโดย เริ่มต้นด้วยแป้งสลับนม และจบสุดท้ายด้วยแป้ง เพื่อให้ดูดซึมของเหลวบางส่วนไว้ และป้องกันการแยกตัวของ ไขมัน ในส่วนผสมอื่นอีกด้วย
8. ไข่ที่เหมาะสมสำหรับการทำเค้ก ควรใช้ไข่ไก่สด สปันจ์เค้กหรือชิฟฟ่อนเค้ก เพราะถ้าไข่สด ไข่ขาวจะ ข้น และไข่แดงรวมตัวเป็นก้อนกลมไม่เหลวหรือแตกง่าย
9. การตีไข่ขาว สำหรับเค้กชิฟฟ่อน ควรตีด้วยความเร็วสูงจนไข่เริ่มตั้งยอดอ่อน จึงใส่น้ำตาลแล้วตีต่อจน ไข่ขาวตั้งยอด ข้อควรระวังในการตีไข่ขาว อุปกรณ์เครื่องใช้เช่น อ่างผสม ที่ตีต้องสะอาด และแห้งสนิทไม่ เปื้อนไขมัน ไม่มีไข่แดงแตกปน
10. การอบเค้กทุกชนิด ควรจุดเตาอบให้อุณหภูมิของเตาอบได้ตามที่บอกไว้ตามตำรา ขณะอบขนมไม่ควร เปิดเตาอบดูขนมบ่อย ๆ การเปิดเตาอบแต่ละครั้งอุณหภูมิจะลดลงเพราะในขณะอบขนมอยู่ อากาศหรือก๊าซที่ อยู่ในเนื้อขนมจะขยายตัว เมื่อขนมสัมผัสอากาศจะทำให้เนื้อขนมยุบตัวได้ ถ้าเป็นระยะที่เนื้อขนมยังไม่แข็งตัว หรือยังไม่สุก
11. การทดสอบว่า เค้กที่อบสุกหรือยัง ทำได้โดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มตรงกลางขนม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดไม้ ออกมาแสดงว่าสุกแล้ว หรือใช้นิ้วมือแตะหน้าขนมเบา ๆ ถ้าไม่เป็นรอยนิ้วที่แตะก็ใช้ได้ หรือสังเกตว่าขอบขนม ร่อนออกจากพิมพ์โดยรอบ มีสีเหลืองสวย
12. การอบเค้ก ควรวางพิมพ์ให้อยู่กึ่งกลางเตาอบให้มากที่สุด เมื่อต้องการอบพร้อมกันหลาย ๆ พิมพ์ ควร จัดวางพิมพ์ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ไม่ควรวางพิมพ์ชิดกันหรือติดผนังเตาอบ

14   ข้อที่ควรระวังในการทำเค้ก


1. แป้งต้องนำมาร่อนก่อนทุกครั้งจึงค่อยตวง
2. ในการร่อนส่วนผสมแต่ละครั้งต้องร่อนผงฟู แป้ง และเกลือรวมกัน
3. การตวงต้องตวงให้พอดีกับช้อนตวง ไม่พูนขึ้นมา
4. การคนน้ำตาลและเนย ต้องคนให้เข้ากันเป็นเนื้อครีมก่อนจะใส่ไข่ ในการคนไข่ต้องคนให้เข้ากันดี
5. ในการคนส่วนผสมต้องคนให้เข้ากันก่อน โดยวิธีการตะล่อมๆ คนพลิกจากข้างล่างมาข้างบน แล้วจึงใส่นมตาม คนให้เข้ากันแล้วจึงใส่แป้งโดยต้องค่อยๆใส่ทีละน้อยๆ
6. ถาดที่ใส่ส่วนผสมในการอบ ต้องปูด้วยกระดาษก่อนแล้วจึงค่อยทาเนยก่อนเทส่วนผสมใส่ทุกครั้ง
7. การเทขนมลงในพิมพ์ ควรเทขนมเพียงค่อนของพิมพ์ เพราะเวลาอบขนมจะพองตัวขึ้นเต็มพิมพ์พอดี แล้วจึงใช้ไม้เขี่ยให้ถึงพื้นพิมพ์เพื่อไล่อากาศออก
8. ติดเตาอบตั้งไฟให้ถึงความร้อนตามที่ตำราบอกก่อน จึงจะใส่ขนม เมื่อขนมสุกจะมีสีน้ำตาลทอง ขนมจะหดตัวร่อนจากขอบพิมพ์ จึงเอาออกจากเตาวางบนตะแกรง และค่อยๆเลาะเอากระดาษออก
9. นมที่ใช้ต้องเป็นนมสดเท่านั้น หรือถ้าจะใช้นมข้นจืด (นมระเหย) ต้องเติมน้ำอีกเท่าตัว แต่ทางที่ดีควรใช้นมสดจะดีกว่า
10. น้ำตาลที่ใช้ต้องเป็นน้ำตาลทรายป่น หรือน้ำตาลทรายป่นละเอียด เพื่อในการผสมส่วนผสมจะละลายง่าย
11. น้ำตาลไอซิ่ง คือ น้ำตาลทรายผงละเอียดที่ผสมแป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน ใช้ในการแต่งหน้าเค้ก หรือโรยหน้าขนมปัง
12. ไข่ที่ใช้หมายถึงไข่ไก่ทั้งฟอง ถ้าตำราระบุว่าใช้ไข่แดง คือไข่แดงที่แยกไข่ขาวออกแล้ว
13. โกโก้ผงละเอียดเมื่อผสมน้ำแล้วเรียกว่า ช็อกโกแลต
14. กลิ่นที่นิยมใช้ในการทำขนมคือ กลิ่นวานิลา กลิ่นส้ม กลิ่นกล้วย กลิ่นกาแฟ กลิ่นบรั่นดี กลิ่นช็อกโกแลต กลิ่นอลามัน ดังนั้นจึงควรมีกลิ่นพวกนี้ไว้ใช้ได้ตลอดเวลา

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก -- http://icefogdota.wordpress.com/

ขนมเค้กความคิดสร้างสรรค์^^

      หลาย ๆ คนคงเคยเห็นมามากกมายหลากหลายแล้วใช่ไหมค่ะ.......
เค้กจากหลายที่ก็จะมีไอเดียในการตกแต่งเค้กกันอย่างมากมาย......
และที่นำมาให้ดูกันในบทความนี้ ก็คือ ภาพเค้กที่ทำอย่างมีความคิดที่สร้างสรรค์และเป็นศิลปะมากเลยค่ะ เอาใจผู้ที่ชอบเค้กเป็นอย่างมาก ดูแล้วก็ยังคิดว่า นี่คือขนมเค้กจริง ๆ ใช่รึเปล่า???

   
   
   
   

      

      

   

   

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก -- http://medinfo.psu.ac.th/pr/WebBoard/readboard.php?id=19765

ร้านบุฟเฟ่ต์เค้ก

     สำหรับใครที่ชอบทานเค้กรับรองว่าต้องชอบคำว่า "บุฟเฟ่ต์" อย่างแน่นอนใช่ไหมค่ะ ร้านเค้กบุฟเฟ่ต์คืออีกสถานที่นึงที่บุคคลที่ชื่นชอบขนมเค้กจะเลือกไปหาทานกัน แม้ว่าขนมเค้กนั้นจะเป็นขนมที่ชวนให้มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นก็ตาม ในวันนี้จะพาไปรู้จักกับร้านบุฟเฟ่ต์เค้กที่น่าสนใจ แต่จะเป็นที่กรุงเทพฯนะค่ะ มาดูกันเลยค่ะ....

1. Sweety Secret

          ร้านนี้ตั้งอยู่ตรง U-Center สามย่าน เป็นร้านดังที่เหล่านิสิตนักศึกษาแถวนั้นรู้จักกันดี เพราะเป็นร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ที่มีเค้กบุฟเฟต์ให้อร่อยกันได้ในราคาย่อมเยา ในร้านตกแต่งด้วยสีสดใสแบบเรียบง่าย มีเมนูเค้กน่าอร่อยให้เลือกมากมาย แถมยังมีเครื่องดื่มสารพัดชนิดให้แก้เลี่ยนอีกด้วย

          
ที่ตั้ง : U-Center ซอยจุฬา 42 ตรงข้ามอาคารจามจุรี 9
          เบอร์โทร : 086-907-2729, 087-677-5030
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก SweetySecret
          เวลาบุฟเฟต์ : 12.00 – 20.00 น.
          ราคา : 219 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ทานได้ 1 ชั่วโมง
          โปรโมชั่น : แสดงบัตรนักศึกษา ลดเหลือ 195 บาทต่อคน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2556

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

2. Sweet Spell

          ร้านเบเกอรี่โฮมเมดเล็ก ๆ แถวเหม่งจ๋าย คือร้านที่ ร่ายมนต์ขนมหวาน สะกดใจใครหลายคนได้อยู่หมัด เพียงแค่เปิดประตูเข้าร้านก็จะได้กลิ่นความหอมของกาแฟสดอาราบิกาแท้ ๆ มายั่วใจคอกาแฟแล้วล่ะ แถมยังมีกลิ่นหอมหวานของเนย นม จากเบเกอรี่นานาชนิดที่หน้าตาชวนหิวมาก ๆ นอกจากกาแฟแล้วเขายังมีเครื่องดื่มสารพัดอย่างให้เลือกด้วย

          ที่ตั้ง : สี่แยกเหม่งจ๋าย ถัดจาก 7-11 ประมาณ 7 ห้อง
          เบอร์โทร : 084-666-6828
          เว็บไซต์ :  www.sweetspell.com
          เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 21.00 น. ทุกวัน (หยุดทุกวันที่ 15 ของเดือน)
          ราคา : 250 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) ทานได้ 90 นาที

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

3. Maison Chin

          ร้านอาหารสไตล์ Asian Modern ที่มีเชฟฝีมือดีเป็นผู้ลงมือปรุงอาหาร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นร้านเบเกอรี่โดยตรง แต่รับรองได้ว่าฝีมือการปรุงขนมหวานของที่นี่ไม่เป็นรองใคร ซึ่งที่นี่เขามีบุฟเฟต์ให้เลือกทั้งแบบเป็นมื้ออาหารรวมของหวาน หรือจะเลือกทานเฉพาะของหวานก็ได้ เขามีเมนูของหวานให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งเครื่องดื่มรสอร่อยที่น่าไปลองดูสักที

          ที่ตั้ง : โรงแรมบัญดาราสวีท ศาลาแดง
          เบอร์โทร : 02-636-1281
          เวลาบุฟเฟต์ : 14.00 – 17.00 น. เฉพาะวันศุกร์-เสาร์
          เว็บไซต์ : www.maisonchin.com
          ราคา : 229 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม)

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ขอบคณข้อมูลดี ๆ จาก -- http://travel.kapook.com/view41605.html

เค้ก -- Low Fat

i Cake LOWFAT
ประสบการณใหม่ในการกินขนมหวานที่คุณไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องสุขภาพ เพราะเค้กและขนมของที่นี่ Low fat และน้ำตาลน้อย ด้วยคอนเซ็ปต์ Healthy Happy Delicious กินแล้วอร่อย มีความสุข และสุขภาพดีอีกด้วย แถมมัเมนูขนมเค้ก คุกกี้ เครื่องดื่มมากมายให้คุณเลือกอร่อยได้ไม่ต้องกลัวอ้วน คนรักสุขภาพไม่ควรพลาดนะคะ

เมนู Low Fat แนะนำ : เค้กลูกพรุน, เค้กส้มวาเลนเซีย, เค้กคาปูชิโน่, เค้กบลูเบอร์รี่โยเกิร์ต, บราวนี่ไลท์ชีส

Pattaraporn
ร้านเค้กและขนมที่เกิดจากการรักการทำขนมของเจ้าของร้าน โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพและใส่ใจในทุกขั้นตอน เป็นเค้กสูตรเฉพาะที่ทำใหม่วันต่อวัน อีกทั้งยังมีขนมเค้กสูตรที่ใช้วัตถุดิบแบบ Low fat เช่นนมหรือครีม เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อขนมที่อร่อยและดีต่อสุขภาพไปพร้อมๆกันด้วย

เมนู Low Fat แนะนำ : Banana Choc, Fruit Torte White Choc, Orange Strawberry, Chocolate Green Tea

Cafe 2 All
ร้านเค้กที่เริ่มต้นจากร้านเค้กเล็กๆในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร้านเค้กราคาไม่แพงแต่รสชาติเยี่ยม จนทำให้ต้องเปิดสาขาไปอีกหลายที่การันตีความอร่อยได้เลยค่ะ เค้กก็มีให้เลือกชิมหลากหลายรสชาติ หน้าตาน่ารักน่ากิน ความเด็ดอีกอย่างคือร้านนี้มีเค้กที่ใช้วิปครีมแบบ Low fat ด้วยค่ะ เป็นอีกทางเลือกของคนรักขนมหวานที่ไม่อยากอ้วน


เมนู Low Fat แนะนำ : บานอฟฟี่, เค้กส้ม, ช็อกชิป, ช็อกโกแลตสตรอเบอร์รี่, โอริโอ, เลมอน


ขอบคุณข้อมูลจาก -- http://th.openrice.com/bangkok/restaurant/article/detail.htm?article_id=1970